fbpx อยากดูเด็กและสุขภาพดี ต้องดู “นาฬิกาชีวภาพ” | ทำตาสองชั้น เปิดหัวตา ถุงใต้ตา โดยหมอรวงข้าว และทีมจักษุศัลยแพทย์ ออกแบบดวงตา วิเคราะห์ปัญหาตรงจุด

อยากดูเด็กและสุขภาพดี ต้องดู “นาฬิกาชีวภาพ”

860_kt_circadian_illo.jpg

 

      นาฬิกาชีวภาพ ทำหน้าที่ควบคุมระดับฮอร์โมน พฤติกรรมการนอนหลับหรือการตื่น อุณหภูมิของร่างกาย และระบบการเผาผลาญของร่างกายที่เหมาะสม การพักผ่อนไม่เพียงพอ จะรบกวนนาฬิกาชีวภาพของเรา จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความงาม ใครอยากให้ผิวดูเด็กและสุขภาพดีตลอดกาล มาปรับเวลาการนอน การตื่น การรับประทานอาหารตามนาฬิกาชีวภาพกันดีกว่า

 

  • เวลา 01.00-03.00 น. 

 

เป็นเวลาที่เหมาะแก่การนอนหลับ เพราะช่วงเวลานี้ตับจะหลั่งสารเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ เพื่อช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น และไม่ควรรับประทานอาหารในเวลานี้ เพื่อให้ตับได้พักจากการทำงานและป้องกันการเสื่อม หากตับแข็งแรง จะทำหน้าที่ขจัดสารพิษในร่างกายได้ดี ส่งผลให้เรามีผิวหน้าที่อ่อนกว่าวัย

 

  • เวลา 03.00-05.00 น.

 

เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การตื่นนอน เพื่อรับแสงแดดยามเช้าและสูดอากาศบริสุทธิ์ การตื่นนอนในช่วงเวลานี้เป็นประจำ จะทำให้ปอดและผิวมีสุขภาพดีขึ้น

 

  • เวลา 05.00-07.00 น.

 

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการขับถ่าย และควรทำให้เป็นนิสัยในทุกเช้า เพราะระบบขับถ่ายมีความสำคัญอย่างมหาศาลสำหรับร่างกายของมนุษย์ ระบบขับถ่ายที่ทำงานไม่เป็นปกติ และไม่สามารถขับเสียของเสียจากร่างกายได้ จะผลต่อผิวพรรณอย่างมาก เช่น ทำให้ผิวแพ้ง่าย ผิวพรรณไม่ยกกระชับ แห้งกร้าน ไม่มีน้ำมีนวล เกิดผื่นเรื้อรัง สิวอักเสบเรื้อรัง และทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ เป็นต้น

 

  • เวลา 07.00-09.00 น.

 

ควรรับประทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน จะช่วยให้กระเพาะอาหารแข็งแรงและช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ผู้ที่ไม่รับประทานอาหารเช้า สมองจะช้า จะมีอาการเบลอ จึงควรรับประทานอาหารเช้าที่ประกอบด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน เช่น ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต ไข่ต้ม ผักผลไม้ และอาจเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย เพื่อบำรุงผิวพรรณให้สวยงาม ด้วยการดื่มน้ำมะนาวคั้นสด หรือน้ำมะเขือเทศ เป็นต้น

 

  • เวลา 09.00-11.00 น.

 

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การทำงาน หรือทำกิจกรรม เพราะร่างกายจะมีความตื่นตัวมาก การนอนหลับในช่วงเวลานี้จะทำให้ม้ามอ่อนแอ ซึ่งม้ามจะทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ทำลายแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอมในเม็ดเลือด ถ้าหากม้ามไม่แข็งแรง  จะทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้สุขภาพผิวแย่ตามไปด้วย 

 

  • เวลา 11.00 – 13.00 น. 

 

เป็นช่วงเวลาที่หัวใจทำงานได้ดี ระดับความดันเลือดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้ร่างกายจะขับเหงื่อออกมากกว่าเวลาอื่น จึงอาจทำให้รู้สึกร้อน อบอ้าว หากเป็นไปได้ ควรงีบหลับในเวลาสั้นๆ เพื่อให้หัวใจได้พักจากการทำงานสักครู่หนึ่ง

 

  • เวลา 13.00 – 15.00 น.

 

หากช่วงมื้อกลางวัน ไม่ได้รับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารไม่เพียงพอ เมื่อถึงช่วงเวลานี้ จะทำให้หิวจนรู้สึกทรมาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลำไส้เล็กทำหน้าที่ย่อยและดูดซึมอาหาร

 

  • เวลา 15.00 – 17.00 น.

 

เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกกำลังกาย เพราะเป็นช่วงที่หลอดเลือดหัวใจและกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นกว่าช่วงเวลาอื่น ซึ่งการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ผิวเรียบเนียน ยกกระชับขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นด้วย

 

  • เวลา 17.00 – 19.00 น.

 

ระดับความดันเลือดจะเพิ่มขึ้นสูงสุด จึงไม่ควรนอนหลับในเวลานี้ ซึ่งเป็นเวลาของอาหารเย็น โดยมื้อสุดท้ายของวันควรจบก่อนเวลา 19.00 น. เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น กรดไหลย้อน และสำหรับคนที่ต้องการรักษารูปร่าง ควรรับประทานแป้งให้น้อยที่สุดในมื้อเย็น และควรดื่มน้ำสะอาด เพื่อให้ร่างกายกำจัดของเสียออกทางปัสสาวะได้อย่างเต็มที่

 

  • เวลา 19.00 – 21.00 น.

 

เป็นช่วงเวลาผ่อนคลายความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน อาจจะนั่งสมาธิ หรือเล่นโยคะ เพื่อลดฮอร์โมนความเครียด ซึ่งทำให้นอนหลับไม่สนิท อันเป็นต้นเหตุให้ฮอร์โมนต่างๆ ที่จะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้ผิวไม่ยกกระชับ ผิวแก่เร็ว

 

  • เวลา 21.00 – 23.00 น.

 

เป็นช่วงที่ร่างกายปรับสมดุลความร้อน ซึ่งอุณหภูมิในร่างกายจะค่อยๆ ลดลง ร่างกายจะเริ่มหลั่งเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ทำให้นอนหลับสบายขึ้น ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการพักผ่อนและทำให้ร่างกายอบอุ่นมากที่สุด

 

  • เวลา 23.00 – 1.00 น.

 

ถ้าหากนอนดึก จะทำให้เกิดปัญหาขอบตาคล้ำ ตาบวม ผิวไม่ยกกระชับ สภาพผิวเสื่อมโทรม และผิวแก่ก่อนวัยตามมา จึงควรเข้านอนให้เร็ว เพราะเป็นช่วงเวลาที่ Growth Hormone หรือฮอร์โมนแห่งความอ่อนเยาว์จะช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย

 

 

 

สูตรหน้าเด็กกว่าวัย ไม่ต้องพึ่งครีมทาผิว

 

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และไม่ควรนอนเกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้เซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะต่างๆ เกิดการซ่อมแซม และเพื่อให้ผิวพรรณเกิดการฟื้นฟูอย่างเต็มที่  
  2. ทำความสะอาดหน้าอย่างนุ่มนวล การล้างหน้า หรือเช็ดหน้าอย่างรุนแรง ถือเป็นการทำลายผิว ทำให้ผิวเกิดรอยย่นในระยะยาว จึงควรล้างหน้าด้วยความทะนุถนอม และใช้ผ้าเช็ดหน้าเนื้อละเอียดที่ใช้สำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ
  3. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เป็นการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหน้า ทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย
  4. เติมอาหารผิว โดยการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ หรือสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน เช่น โปรตีน และวิตามินซี จะช่วยให้ผิวยกกระชับ เต่งเตึง และดูอ่อนกว่าวัย
  5. ออกกำลังกาย ช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนได้ดี ส่งผลให้ผิวพรรณผุดผ่อง อมชมพูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  6. บอกลาความเครียด คุณเครียด ผิวก็เครียด เพราะความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้การทำงานของผิวไม่เป็นปกติ เช่น ทำให้หน้าดูสูงวัย เนื่องจากคอลลาเจนใต้ชั้นผิวถูกทำลาย เกิดรอยคล้ำใต้ตา จากการนอนหลับไม่สนิท เกิดสิว เพราะต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น จนเกิดไขมันอุดตัน ผิวเกิดอาการแพ้เป็นผื่นง่าย เป็นต้น
  7. กันแดด เพราะรังสียูวีเอและยูวีบีในแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย จึงควรปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาครีมกันแดดทุกวัน

 

 

 

5 ท่าโยคะหน้าเด็ก

 

      อยากให้หน้าดูเด็กกว่าวัย บอกลาริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้าได้แบบง่ายๆ ด้วยการ “โยคะหน้า” ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอยอย่างง่ายดาย

 

The-V.jpg

 

      ท่าที่ 1 ท่า V เหมาะสำหรับการลดตีนกาและถุงใต้ตา

 

Step 1 : ทำนิ้วเป็นรูปตัววี โดยใช้นิ้วกลางกดหัวคิ้ว และใช้นิ้วชี้กดที่ปลายคิ้วทั้งสองข้าง

 

Step 2 : กลอกตาขึ้นและลง ทำซ้ำ 6 ครั้ง

 

 

 

Smile-Smoother.jpg

 

      ท่าที่ 2 ท่าห่อปาก + ยิ้มกว้าง เหมาะสำหรับการลดร่องแก้มและความหย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับผิว

 

Step 1 : ทำท่าห่อปาก ไม่ให้เห็นฟัน

 

Step 2 : ยิ้มกว้างโดยไม่เห็นฟัน และทำซ้ำ 6 ครั้ง

 

Step 3 : ใช้นิ้วชี้กดปลายคาง ขยับขากระไกรขึ้นลง และค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ทำซ้ำ 2 รอบ

 

 

 

The-Smooth-Brow_0.jpg

 

      ท่าที่ 3 นวดหน้าผาก เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก

 

Step 1 : วางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าผากและกางนิ้วออกให้นิ้วชี้แตะกับโคนผม และนิ้วก้อยแตะตรงคิ้ว

 

Step 2 : กดเบาๆ และค่อยๆ กวาดนิ้วมือออกไปด้านข้าง เพื่อยกกระชับผิว ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

 

 

Flirty-Eyes_0.jpg

 

      ท่าที่ 4 ดวงตาสดใส เหมาะสำหรับคนที่มีร่องน้ำตาและคิ้วตก

 

Step 1 : วางนิ้วชี้ไว้ใต้ตา

 

Step 2 : ทำท่าห่อปาก ไม่ให้เห็นฟัน

 

Step 3 : กลอกตาขึ้นบนมองเพดาน เป็นเวลา 30 นาที

 

 

 

The-Giraffe.jpg

 

      ท่าที่ 5 ยีราฟ เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบริเวณลำคอ

 

Step 1 : วางปลายนิ้วบริเวณไหปลาร้า

 

Step 2 : เงยหน้าแล้วค้างไว้ พร้อมกับยื่นปากล่าง ค้างไว้ 10 วินาที ทำซ้ำ 2 รอบ

 

 

 

wonder hifu3.jpg

 

Beauty TIP : Wonder Hifu นวัตกรรมยกกระชับหน้า ถึงชั้น SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นการยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Bi-intensity Focus Ultrasound ที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ เพื่อกระตุ้นชั้นใต้ผิวหนังให้เกิดการยกกระชับ โดยมีหลักการเดียวกับเครื่อง Ulthera แต่มีการโฟกัสอย่างละเอียดมากขึ้น เหมาะกับคนที่ผิวมีความหย่อนคล้อย ต้องการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้า V-Shape กรอบหน้าชัด คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวหน้ายกกระชับ กระชับผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

Credit ภาพ : wired.co.uk, marieclaire.co.uk